BACTERIA FILTER
    BAG FILTER
    CHEMICALS FOR MEMBRANE CLEANING PROCESS น้ำยาล้างเมมเบรน ระบบรีเวอร์สออสโมซิส
    DISSOLVED AIR FLOTATION PUMP (DAF)
    MULTI CARTRIGE
    OZONE GENERATOR
    RESIDENTIAL
    REVERSE OSMOSIS(RO)
    RO SEAWATER
    SOFTENER & FILTER
    ULTRA FILTRATION(UF)
    ULTRA VIOLET(UV)
    เครื่องกรองระบบRO
    เครื่องทำน้ำด่าง
    น้ำดื่มบรรจุขวดปิดสนิท
 
     
  
 
    Email :
    
    Password :
    
    
      ลืมรหัสผ่าน
About Us
Contact Us
Webmail Cygnus
Administrator Cygnus
 
 
 
 เกร็ดความรู้ โดย ซิกนัสฯ
 
การเลือกซื้อและการดูแลเครื่องกรองน้ำอย่างไร
 

ปัจจุบันนี้เครื่องกรองน้ำที่ใช้ในครัวเรือนเกือบจะเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นที่จะต้องมีใช้ในบ้านเกือบทุกกบ้าน เพราะเราจะต้องดื่มน้ำวันละประมาณ 2 ลิตร ซึ่งในปัจุบันนี้ผู้บริโภคมีทางเลือกอยู่ 2 ทางเลือกคือ หนึ่งซื้อน้ำดื่มบรรจุขวด คือน้ำที่จำหน่ายทั้งในรูปบรรจุขวดผนึกและจำหน่ายโดยใช้ตู้หยอดเหรียญ ทางเลือกที่สองคือซื้อเครื่องกรองน้ำดื่มมาติดตั้งภายในบ้าน
เครื่องกรองน้ำดื่มที่ใช้ในครัวเรือนในปัจจุบันมีอยู่มากมายยหลายชนิดและหลากหลายเทคโนโลยี จนผู้บริโภคเริ่มจะสับสนว่า เครื่องกรองน้ำที่วางขายอยู่ตามท้องตลาดดนั้นสามารถขจัดสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ออกได้จริงหรือไม่ หรือต้องซื้อเครื่องกรองน้ำที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงๆ ซึ่งก็มีราคาแพงเกินความจำเป็นไปหรือไม่ ในการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำด เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจและสามารถเลือกซื้อได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์
ทำไมต้องมีเครื่องกรองน้ำ
โดยปกติผู้ผลิตน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคจะแจกจ่ายน้ำตามเส้นท่อไปยังผู้ใช้น้ำ ที่เราเรียกว่าน้ำประปา นั้นผู้ผลิตจะใช้กรรมวิธีการผลิตที่สามารถขจัดสิ่งปนเปื้อนที่ปนมากับน้ำดิบจนได้น้ำที่มี 
สิ่งปนเปื้อนไม่เกินเกณฑ์ที่องค์กรของรัฐและองค์กรระหว่างประเทศ เช่นองค์การอนามัยโลก(WHO) กำหนด แล้วประกาศว่าน้ำประปานั้นดื่มได้
แต่ผู้ใช้น้ำบางกลุ่มก็ยังไม่ดื่มน้ำจากก๊อกโดยตรงต้องซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดหรือซื้อเครื่องกรองน้ำดื่มมาติดตั้งภายในครัวเรือน ทั้งนี้เพราะผู้บริโภคมีความต้องการน้ำดื่มที่มีคุณภาพสูงกว่าน้ำที่ผู้ผลิตน้ำประปา หรือเกิดจากความกังวลว่าอาจจะมีสิ่งปนเปื้อนประปนมากับน้ำในระหว่างการส่งจ่ายน้ำตามเส้นท่อ หรือถังพักน้ำภายในบ้าน รวมทั้งระบบท่อน้ำภายในบ้าน เช่นตะกอน และเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆที่อาจก่อให้เกิดโรคได้ ทำให้ต้องซื้อเครื่องกรองน้ำมาติดตั้งภายในครัวเรือนเพื่อขจัดสิ่งไม่พึงประสงค์ออกจากน้ำ และป้องกันความเสี่ยงของสารและเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนอยู่ในน้ำ
เลือกเครื่องกรองน้ำระบบไหนที่เหมาะกับครัวเรือนของท่าน
มีหลายท่านสอบถามมายังผู้เขียนว่าจะซื้อเครื่องกรองน้ำดื่มระบบไหนดี ก่อนจะเลือกใช้เครื่องกรองน้ำชนิดใด หรือระบบไหน ที่จริงควรจะถามตัวเองก่อนว่าทำไมจึงไม่สามารถดื่มน้ำจากก๊อกน้ำประปาโดยตรง ซึ่งหลายท่านมักจะตอบว่า เพราะกลิ่นและรสชาดของคลอรีนที่มีในน้ำทำให้ไม่กล้าดื่ม ความจริงแล้วคลอรีนในน้ำประปานั้นผู้ผลิตมีความจำเป็นต้องเติมลงไปในน้ำในระหว่างการผลิตน้ำเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ที่อาจก่อให้เกิดโรค องค์การอนามัยโลกกำหนดให้น้ำประปาจะต้องมีปริมาณคลอรีนอิสระไม่น้อยกว่า 0.5 ส่วนในน้ำล้านส่วน(ppm) ซึ่งคลอรีนอิสระที่สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้ ต้องมีความเข็มข้นมากกว่า 0.2 ppm และผู้ผลิตน้ำประปามักจะเติมให้มีคลอรีนอิสระประมาณ 1-2 ppm ทั้งนี้เพื่อให้มีคลอรีนอิสระเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 0.5 ppm เมื่อถึงบ้านผู้ใช้น้ำ เพราะคลอรีนจะสลายตัวตลอดเวลา
ผู้ผลิตน้ำประปาจึงแนะนำให้ผู้บริโภคที่ไม่พึงพอใจในกลิ่นของคลอรีน รองน้ำประปาใส่ภาชนะที่สะอาดเก็บทิ้งไว้ 1-2 วัน กลิ่นของคลอรีนจะหายไปเอง ก็จะสามารถขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์จากคลอรีนได้ แต่ผู้บริโภคที่ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ ก็อาจจะต้องซื้อเครื่องกรองที่มีความสามารถในการขจัดคลอรีน ซึ่งได้แก่เครื่องกรองที่มีองค์ประกอบของถ่านกัมมันต์(Activated Carbon)

ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับสารอินทรีย์และคลอรีนได้ ทั้งนี้ถ่านกัมมันต์ที่ใช้ในเครื่องกรองจะต้องมีคุณภาพ มีปริมาณ และการออกแบบที่เหมาะสม ถ้าน้ำมีตะกอนสารแขวนลอยที่ปนเปื้อนจากระบบส่งน้ำ ควรจะต้องมีไส้กรองที่สามารถกรองสารแขวนลอยจำพวกขนาด 1-25 ไมครอน ออกก่อน เพราะถ้าปล่อยให้ตะกอนสารแขวนลอยไปยังไส้กรองถ่านกัมมันต์ ตะกอนจะไปอุดตันในรูพรุนของถ่านกัมมันต์ ทำให้ประสิทธิภาพในการดูดซับสารอินทรีย์และคลอรีนของถ่านกัมมันต์ลดลง บางบ้านที่มีถังพักน้ำเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ น้ำในถังพักอาจมีปริมาณของคลอรีนอิสระอาจเหลือน้อยกว่า 0.2 ppm ซึ่งไม่สามารถขจัดเชื้อโรคได้ ดังนั้นน้ำในถังพักน้ำอาจมีความเสี่ยงในการปนเปื้อนเชื้อโรคและจุลินทรีย์เพื่อป้องกันความเสี่ยงผู้บริโภคมักจะซื้อเครื่องกรองน้ำดื่มแบบที่มีระบบฆ่าเชื้อโรค เช่น แสงอัลตราไวโอเลต(UV) หรือระบบที่มีไส้กรองที่มีความละเอียดที่สามารถกรองเชื้อโรคได้

ถ้าน้ำมีปริมาณเกลือหรือปริมาณของแข็งที่ละลายได้ปนมาสูง จะทำให้น้ำนั้นมีรส กร่อยโดยปกติวัดเป็นค่าปริมาณของแข็งละลายรวม(Total Dissolved Solid) หรือค่า TDS ได้ค่อนข้างสูง ตาม มาตรฐานน้ำดื่มจะต้องมีค่า TDS ไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อลิตร ถ้าน้ำมีปริมาณ TDS สูงถึง 1000 มิลลิกรัมต่อลิตรจะมีรสกร่อย ซึ่งองค์การอนามัยโลกใช้เป็นเกณฑ์อนุโลมให้สามารถใช้ดื่มได้ ถ้าต้องการลดปริมาณของสารละลายเกลือ(TDS) จะต้องใช้เครื่องกรองน้ำที่มีระบบที่สามารถกรองแยกเกลือหรือสารละลายที่ปนเปื้อนในน้ำออกได้ เช่น ระบบการกลั่นและระบบ รีเวอร์ออสโมซีส(Reverse Osmosis RO) 
ดังนั้นถ้าต้องการจะเลือกใช้เครื่องกรองน้ำควรพิจารณาก่อนว่า เครื่องกรองน้ำนั้นมีอุปกรณ์ที่ใช้กำจัดสิ่งไม่พึงประสงค์ที่ปนเปื้อนมากับน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งมีวิธีการกำจัดสิ่งปนเปื้อนในน้ำ
รู้จักสารปนเปื้อนที่อยู่ในแหล่งน้ำ 
ในน้ำประปาทั่วๆไปมีโอกาสพบสารปนเปื้อนหลายชนิดที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ต่อสุขภาพ ทำให้เกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคสมอง และ โรคผิวหนังได้ เชื้อโรคและสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายและมักพบในแหล่งน้ำทั่วไป คือ แบคทีเรีย (ที่ท่อน้ำประปา) โลหะหนักต่างๆ (ที่มาจากอุตสาหกรรมและระบบท่อน้ำเก่า เช่นตะกั่ว กับทองแดง เป็นต้น) คลอรีน (ที่ใส่ในน้ำเพื่อฆ่าเชื้อโรค ในน้ำประปา) และ สารอินทรีย์ รวมกันมาก กว่า 2,000 ชนิด ที่เกิดมาจากการเจือจางของคลอลีนและสารปนเปื้อนอื่นในน้ำ หรือ ยาฆ่าแมลง ฮอร์โมน และสารตกค้างจากการใช้  ยา          
เครื่องกรองน้ำที่ใช้ในครัวเรือนกรองสิ่งปนเปื้อนได้อย่างไร 
เครื่องกรองน้ำที่ใช้ในครัวเรือนมีอุปกรณ์ที่ใช้ขจัดสิ่งปนเปื้อนหรือสิ่งอันไม่พึงประสงค์ต่อการดื่ม ซึ่งพอจะจำแนกได้ดังนี้
1. อุปกรณ์ที่ใช้ในการคัดกรอง(Filtration) จะมีหน้าที่คล้ายเป็นตะแกรงคัดกรองตะกอนสารแขวนลอย และอนุภาคขนาดเล็กที่อยู่ในรูคลอลอยที่ประปนมากับน้ำออก ซึ่งอุปกรณ์กรองน้ำหรือไส้กรองน้ำประเภทที่จะมีขนาดรูพรุนที่แตกต่างกัน มีตั้งแต่ขนาดรูพรุน 25 ไมครอนลงไปจนถึง 0.01 ไมครอน ซึ่งพอจะจำแนกตามขนาดรูพรุนได้ดังนี้
1.1 ใช้กรองตะกอนขนาดใหญ่ จะมีรูพรุน 1-25 ไมครอน ใช้กรองตะกอนขนาดใหญ่ มักใช้เป็นไส้กรองเบื้องต้น(Prefilter) สำหรับระบบกรองน้ำเพื่อคัดกรองตะกอนขนาดใหญ่ไม่ให้ไปอุดตันในอุปกรณ์คัดกรองหลักของเครื่องกรอง

1.2 ไส้กรองตะกอนคลอลอย ที่มีขนาดความพรุน ตั้งแต่ 0.3 – 0.9 ไมครอน สามารถใช้กรองสารแขวนลอยในน้ำที่อยู่ในรูปคลอลอย ซึ่งทำให้น้ำมีสีต่าง ๆ ตามสีของคลอลอย ทำให้ดู       เหมือนว่าไส้กรองน้ำสามารถกำจัดสีได้ แต่ต้องเป็นสีที่เกิดจากสีของสารแขวนลอยที่อยู่ในน้ำส่วนสีที่อยู่ในรูปของสารละลายจะไม่สามารถกำจัดได้ ไส้กรองน้ำที่มีขนาดรูพรุน เล็กกว่า 0.5 ไมครอนจะสามารถขัดกรองเชื้อแบคทีเรียได้และโปโตซัว เพราะขนาดของแบคทีเรียที่เล็กที่สุดมีขนาด 0.5 ไมครอน ดังแสดงในรูปที่ 1 เดิมไส้กรองประเภทนี้มักทำด้วยวัสดุเซรามิค ซึ่ง เรียกกันว่าไส้กรองเซรามิค ในปัจจุบันทำด้วยวัสดุที่หลากหลายมากขึ้น บางชนิดมีการพัฒนาเคลือบสารหรือผสมสารบางชนิดลงบนผิวของไส้กรอง ทำให้มีคุณสมบัติในการต่อต้านการ เจริญเติบโตของแบคทีเรีย บนผิวไส้กรอง (Bio Film) ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดคราบจุลินทรีย์และกลิ่น ไส้กรองน้ำในข้อ 1.1 และ 1.2 ทางวิชาการรวมเรียกว่า ไมโครฟิลเตอร์ (Micro filter)
1.3 ไส้กรองอัลตราฟิลเตอร์ (Ultra filter) เป็นไส้กรองที่มีขนาดความพรุนเล็กกว่า 0.01ไมครอน ดังแสดงในรูปที่ 
1. ไส้กรองประเภทนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นไส้กรองน้ำปลอดเชื้อ เพราะ สามารถ กรองเชื้อจุลินทรีย์ได้ทุกชนิดตั้งแต่โปโตซัว แบคทีเรีย รวมทั้งไวรัสทุกชนิด และยังสามารถคัดกรองสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ได้ โดยทั่วไปการบอกขนาดของไส้กรองประเภทนี้มักบอกเป็นขนาดโมเลกุลที่ถูกคัดกรอง Molecular Weight cut off (MWCO) ซึ่งจะมีขนาด MWCO ตั้งแต่ 1,000 ดัลตัน (Dalton) ไปจนถึง 1,000,000 ดัลตัน ในการกรองน้ำดื่มมักจะใช้ 30,000 – 50,000 ดัลตัน
2. อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับดูดซับด้วยถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon) ไส้กรองประเภทนี้สามารถดูดซับสารอินทรีย์ สี (ที่เกิดจากสารอินทรีย์) กลิ่นของสารอินทรีย์ และคลอรีนที่เหลือปะปนมากับน้ำประปา ถ่านกัมมันต์จะดูดซับสารอินทรีย์ด้วยแรงแวลเดอร์วาล (Van der Waals force) ซึ่งเป็นแรงดึงดูดทางไฟฟ้าอย่างอ่อน ๆ ที่ผิวของถ่านกัมมันต์ ดังนั้นถ่านกัมมันต์ที่มีพื้นผิวและความพรุนมากจะ สามารถดูดซับสารอินทรีย์ได้มาก โดยปกติถ่านกัมมันต์ที่ใช้ทำเครื่องกรองน้ำดื่มมักผลิตจากกะลามะพร้าว และถ่านหิน

ส่วนถ่านกัมมันต์ผลิตจากกระดูกสัตว์มักใช้ในการดูดซับฟลูออไรด์ในน้ำถ่านกัมมันต์ที่ผลิตได้มีทั้งแบบถ่านกัมมันต์เม็ด (Granular Activated Carbon GAC) และชนิดผง (Powdered Activated Carbon PAC) ถ่านกัมมันต์เม็ด จะใช้บรรจุในคอลัมม์ โดยนำน้ำที่ต้องกรองไหลผ่าน ส่วนถ่านกัมมันต์ผง มักใช้ผสมกับน้ำดิบในระบบผลิตน้ำประปา ที่ต้องการกำจัดสารอินทรีย์แล้วกรองออกโดยระบบกรองทราย ประสิทธิภาพในการกำจัดดังแสดงในตารางที่ 2. ในปัจจุบันมีผู้นำถ่านกัมมันต์ชนิดผงทำเป็นถ่านกัมมันต์ผงอัดแท่ง (Activated Carbon Block) ดังรูป 

ซึ่งผู้ผลิตจะผสมสาร ยึดเกาะ อัดเป็นแท่ง มีความพรุนในขนาด 0.3 ถึง 5 ไมครอน สามารถกรองตะกอนสารแขวนลอย และเชื้อโรคได้เช่นเดียวกับไมโครฟิลเตอร์ และสามารถดูดซับสารอินทรีย์ได้พร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ ผู้ผลิตถ่านกัมมันต์อัดแท่งยังผสมสารต่อต้านแบคทีเรียในเนื้อไส้กรอง ทำให้ป้องกันแบคทีเรียไม่ให้เกาะติดจนเกิดคราบเชื้อจุลินทรีย์ที่ผิวของไส้กรองอีกด้วย 

สีที่มีปะปนในน้ำธรรมชาติมักเกิดจากการเน่าเปื่อยของซากพืช ทำให้เกิดกรดฮิวมิค (Humic acid) และกรดฟูวิค (Fulvic acid) ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ ถ่านกัมมันต์สามารถกำจัดสีที่เกิดจากสารเหล่านี้ได้ ส่วนกลิ่นที่ปนมากับน้ำมักเกิดจากแบคทีเรียบางชนิด เช่น ไธโอแบคทีเรีย ซึ่งสามารถผลิตสารซัลไฟต์ที่มีกลิ่นเหม็น กลิ่นอาจเกิดจากสารเชื้อราและสาหร่ายเซลเดียวก็สามารถทำให้เกิดกลิ่นได้ 

3. อุปกรณ์แลกเปลี่ยน อิออนด้วยเรซิน (Ion – exchange resin) ระบบกรองน้ำที่ใช้การแลกเปลี่ยนอิออนโดยใช้เรซิ่น เรซินจะทำหน้าที่จับสิ่งไม่พึงประสงค์ต่อการดื่มที่อยู่ในรูปอิออนไว้ แล้วปล่อยอิออนอื่นที่อยู่บนเรซินออกมา อิออนเอกเชนเรซิน มี 2 ชนิด 
1. แคทอิออนเรซิน (Cation exchange resin) เป็นสารที่ทำให้น้ำเป็นน้ำกระด้าง
ชนิดนี้อาจเรียกว่าเป็นเครื่องกรองเพื่อกำจัดความกระด้างของน้ำ แคทอิออนเรซินยังสามารถดูดจับโลหะหนักที่อยู่ในรูปอิออนบวก เช่น ตะกั่ว ,โครเมียม  
2. แอนอิออนเรซิน (Anion exchange resin) เครื่องกรองน้ำที่ใช้ในครัวเรือนมักกไม่ได้นำเรซินประเภทนี้ไปใช้ จะใช้ในระบบกรองน้ำอุตสาหกรรมในการผลิตน้ำ D1 ซึ่งจะไม่กล่าวรายละเอียดในที่นี้ 

  •   การกรองระบบรีเวอร์ออสโมซีส (Reverse Osmosis RO) เป็นการกรองโดยใช้แรงดันเพื่อให้น้ำซึมแพร่ผ่านเนื้อเยื่อ (Membrane) ที่ยอมให้นำซึมผ่าน แต่กักกั้นเกลือที่อยู่ในรูปสารละลายของอิออน ของเกลือ มีประสิทธิภาพในการคัดกรองสารละลายเกลือได้ 96-99 % นอกจากนี้ RO ยังสามารถคัดกรองสารอินทรีย์ที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่กว่า 150 ดัลตัล (Dalton) ด้วยขนาดของรูพรุนของเนื้อเยื่อที่ละเอียดมาจนเกือบจะเรียกได้ว่าไม่มีรูพรุน ซึ่งสามารถคัดกรองเชื้อโรค ได้ทุกชนิดรวมถึงไวรัส
  •   การกรองระบบนาโนฟิลเตชัน (Nanofiltation NF) มีหลักการในการกรองเช่นเดียวกับ RO แต่มีความสามารถในการกักกั้นเกลือได้ด้อยกว่า 
    ระบบการกรองแบบ RO และ NF ช่วยลดปริมาณสารละลายเกลือที่ปนเปื้อนในน้ำซึ่งเป็นต้นเหตุของความเข้มความกร่อยได้ดี และยังสามารถคัดกรองจุลินทรีย์เชื้อโรครวมถึงไวรัส และยังสามารถคัดกรองสารอินทรีย์ที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ (ใหญ่กว่า 150 ดัลตัน) เช่น ยาฆ่าแมลงได้ด้วย ระบบการกรองน้ำมีหลากหลายเทคโนโลยีในการแยกสารที่ปนเปื้อนอันเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์แตกต่างกัน ระบบการกรองพอจำแนกเป็นกลุ่ม ๆ ได้ 5 กลุ่ม คือ
  1. กลุ่มใช้หลักการของตะแกรงคัดกรองอนุภาพ ได้แก่ ระบบกรองอนุภาคขนาดใหญ่ 25-1 ไมครอน, ในระดับที่เล็กกว่า 1 ไมครอนที่สามารถกรองแบคทีเรียได้ ที่เรียกว่า ไมโครฟิลเตชัน การกรองแบบตะแกรงคัดกรองที่มีขนาดรูพรุนเล็กกว่า 0.01 ไมครอน เรียกว่า ระบบอัลทราฟิลเตรชัน (Ultrafiltation UF) จะสามารถคัดกรองสารอินทรีย์ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่และยังสามารถกรองไวรัสได้ ดังแสดงในตารางที่ 2.
  2. กลุ่มที่ใช้หลักการการดูดซับ ได้แก่ ระบบกรองที่ใช้ถ่านกัมมันต์กับถ่านกัมมันต์ชนิดเม็ด GAC และถ่านกัมมันต์ชนิดผง PAC ที่สามารถดูดซับสารอินทรีย์ สี กลิ่น
  3. กลุ่มที่ใช้หลักการแลกเปลี่ยนอิออน (Ion-exchange) ใช้ดูดจับแคลเซียมและแมกเนเซียมที่เป็นต้นเหตุของความกระด้างในน้ำ
  4. กลุ่มที่ใช้ฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ได้แก่ การใช้แสงอัลทราไวโอเลต UV และโอโซน
  5. กลุ่มขจัดสารละลายเกลือที่เป็นต้นเหตุของความเค็มความกร่อย ได้แก่ ระบบ RO และ NF ส่วนระบบอิเลคโตรไดอะไลซีส (Electro dialysis ED) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้สนามไฟฟ้าดึงดูดให้อิออนซึมผ่านเมมเบรนแบบแลกเปลี่ยนอิออน (Ion exchange membrane) แต่ระบบนี้ยังไม่นิยมนำมาใช้ในระบบเครื่องกรองน้ำในครัวเรือน ดังนั้น ในการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ ควรพิจารณาว่าในเครื่องกรองน้ำนั้นมีอุปกรณ์ที่สามารถขจัดสิ่งเจือปนที่ไม่พึงประสงค์ในการดื่ม เช่น ตะกอนสารแขวนลอย สี กลิ่น รสชาติ ลอดจนป้องกันความเสี่ยงในการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าเครื่องกรองน้ำนั้นสามารถขจัดสิ่งไม่พึงประสงค์จนเป็นที่พอใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องกรองที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง พราะจะทำให้ท่านสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น ทำให้เสียเงินตราต่างประเทศเพื่อนำเข้าเครื่องกรองน้ำหรือใส่กรองน้ำนั้นจากต่างประเทศ เมื่อกรองน้ำจนได้น้ำที่สะอาด ปราศจากสิ่งปนเปื้อนและเชื้อโรคแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเติมสารอาหารและแร่ธาตุใดลงในน้ำอีก เพราะร่างกายต้องการน้ำเพื่อช่วยย่อยอาหารและชดเชยน้ำที่ระเหยไปพร้อมกับเหงื่อ ส่วนสารอาหารและแร่ธาตุที่ร่างกายได้รับจากการรับประทานอาหารน่าจะเพียงพอและเหมาะสมกว่า

ที่มา : http://www.tistr.or.th/ed/images/stories/engineer/article/rodrinkingwater.pdf 
.
ไส้กรอง.. สิ่งสำคัญอย่ามองข้าม 
ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่จำเป็นอีกแล้วที่เครื่องกรองน้ำจะต้องมีขนาดใหญ่เสมอไป จากการใช้วัสดุผลิตไส้กรองที่มีคุณภาพกับเทคโนโลยี จึงทำให้สามารถผลิตไส้กรองขนาดเล็กที่มีคุณภาพสูง เครื่องกรองน้ำทุกเครื่องมีอายุการใช้งานของไส้กรอง เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนอย่าเสียดาย แต่ให้คำนึงถึงคุณภาพ ความสะอาดและปลอดภัยที่คุณจะได้รับจาการดื่มน้ำ ควรเลือกใช้ไส้กรองที่เป็นแคปซูล เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนไส้กรอง และไม่ควรถอดเครื่องเพื่อทำความสะอาด ควรอ่านคู่มือการใช้งานและปฏิบัติตามคู่มือที่ให้มาอย่างละเอียด เพราะในประเทศของเราอากาศร้อน ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่ายเราสมควรเปลี่ยนไส้กรองทุกชนิด
สารกรองและไส้กรองชนิดต่างๆ ในเครื่องกรองน้ำ
สารกรองแมงกานีส กำจัดสารโลหะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารละลายเหล็ก และยังเติมออกซิเจนให้กับน้ำ 
สารกรองแอนทราไซต์ กำจัดตะกอนและสนิมเหล็ก 

ไส้กรอง

  • สารกรองคาร์บอน ใช้กรองตะกอน กลิ่น สี คลอรีน และสารอินทรีย์ 
  • สารกรองเรซิ่น กรองหินปูน ลดความกระด้างในน้ำและดูบซับสี 
  • ไส้กรองเซรามิค กรองเชื้อโรคในน้ำได้เป็นอย่างดี เช่นเชื้อจุลินทรีย์ แบคทีเรียบางชนิด มีความละเอียดในการกรอง 30 ไมครอน 
  • ไส้กรองด้ายพัน กรองสารอินทรีย์ต่างๆ กรวด หิน ดิน ทราย มีความละเอียดในการกรอง 5 ไมครอน 
  • ไส้กรองจีบ กรองกรวด หิน ดิน ทราย และสนิม ทำความสะอาดง่าย มีความละเอียดในการกรอง 30 ไมครอน 
  • ไส้ กรองเมมเบรน กรองสารละลายสารปนเปื้อน เชื้อไวรัส แบคทีเรีย และยังสามารถกรองน้ำเค็มให้จืดสนิท มีความละเอียดในการกรอง 0.0001 ไมครอน

หลังจากที่ได้ใช้เครื่องกรองน้ำไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เด็ดขาดคือ เรื่องระยะเวลาการเปลี่ยนสารกรองและไส้กรอง เพราะสารกรองและไส้กรองก็มีอายุการใช้งานเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพของน้ำที่ผ่านเครื่องกรองด้วย ทางที่ดีเราควรเปลี่ยนสารกรองและไส้กรองให้ตรงตามกำหนดเวลา

ลำดับชนิดของไส้กรอง ระยะเวลาที่ควรเปลี่ยน

  1. ไส้กรอง 2 in 1 3 - 6 เดือน
  2. ไส้กรองจีบ 3 - 6 เดือน
  3. ไส้กรองด้ายพัน P5 3 - 6 เดือน
  4. ไส้กรองด้ายพัน 3 - 6 เดือน
  5. ไส้กรองคาร์บอน 1 ปี
  6. ไส้กรองเรซิ่น 1 ปี
  7. ไส้กรองเซรามิคส์ 1 - 1 ปีครึ่ง
  8. ไส้กรองเมมเบรน 1 - 1 ปีครึ่ง
  9. สารกรองคาร์บอน 1 ปี
  10. สารกรองแอนทราไซด์ 1 ปี
  11. สารกรองแมงกานิส 1 ปี
  12. สารกรองเรซิ่น 1 ปี
  13. โพสคาร์บอน 2 ปี

เทคนิคการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ
สภาพน้ำที่ใช้อยู่ เช่น น้ำประปา หรือน้ำบาดาล หากเป็นน้ำประปาทั่วไป ควรใช้แบบ RO. หรือ UF. เพราะออกแบบไส้กรองกรองต่าง ๆ มาสำหรับใช้กับน้ำประปาโดยตรง แต่หากเป็นน้ำบาดาล ควรปรึกษาผู้ชำนาญการเพื่อทำการวิเคราะห์สภาพน้ำว่ามีความเป็นกรด หรือด่างหรือไม่ หรือมีหินปูนมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้เพิ่มสารกรอง หรือไส้กรอง จำพวกเรซิน ลงไป โดยเราก็จะได้เครื่องกรองน้ำที่ใช้กับสภาพน้ำนั้น ๆ ได้จริง 
ราคา หาก มีความต้องการเครื่องน้ำอย่างดีที่สุด ต้องเป็นแบบ RO. เพราะสะอาดที่สุดมั่นใจได้ 100% รองลงมาราคาย่อมเยาหน่อยก็เป็นแบบ UF นอกเหนือจากนี้ไม่อยากแนะนำเนื่องจากอาจจะได้คุณภาพน้ำที่ไม่คุ้มค่าเงิน แล้วยังไม่จำเป็นหรือเกินความจำเป็น 

คุณภาพของเครื่องที่ใช้ร่วมกับระบบการกรองต่าง ๆ เนื่องจากปัจจุบัน ได้มีการออกแบบเพิ่มเติมความสะดวกต่าง ๆ เช่น เป็นระบบน้ำร้อนหรือน้ำเย็น ต้องดูว่าถังน้ำร้อน หรือน้ำเย็น เป็นสเตนเลสหรือไม่ หรือมีการใช้ตะกั่วเป็นการเชื่อมรอยต่อหรือไม่ เพราะหากใช้สารตะกั่วหรือผสมตะกัวในถังน้ำร้อนหรือน้ำเย็น อาจทำให้เราได้รับสารตะกั่วเข้าร่างกายตลอดเวลา จะเป็นผลให้การพัฒนการทางสมองต่าง ๆ ช้าไปด้วย โดยเฉพาะกับเด็ก 
การรับประกันต่าง ๆ โดยปกติระบบการกรองน้ำจะไม่มีการรับประกัน เนื่องจากขึ้นอยู่กับสภาพน้ำในแต่ละที่ 
รูปทรงต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะกับสภาพการใช้งานในบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีการออกแบบใหม่ ๆ เพื่อให้สวยงาม และเข้ากับทุกพื้นที่ 
การบริการหลังการขาย มีการบริการเปลี่ยนไส้กรอง หรือมีไส้กรองขายให้หลังจากซื้อเครื่องแล้วหรือไม่ หากต้องการความสะดวกสบายก็ใช้บริการกับบริษัทฯ ต่าง ๆ ที่ให้บริการถึงที่บ้าน และมีการเช็คคุณภาพน้ำให้ทุกครั้งที่มีการเปลียนไส้กรอง หรือเข้าไปบริการ

  page view : check out hitwebcounter.com
   
66/4-6 Moo 4 Suksawad Road, Bangperng, Prapradaeng Distract Samutprakarn 10130 Thailand
Tel. (662) 462-6316,463-3217,463-3676,8171470-1 Fax. (662) 464-3274 E-mail. contact@cygnusintl.com
Copyright @ 2012 Cygnus International Co.,Ltd. All Right Reserved.